เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าแอร์(Air Condition)หรือเครื่องปรับอากาศนั้นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยในการปรับสภาพอากาศให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยซึ่งอาจจะปรับอุณภูมิให้ต่ำลงหรือสูงขึ้นแล้วแต่ความเหมาะสมกับสภาพภูมิศาสตร์ภูมิประเทศโดยถ้าเป็นการปรับอุณภูมิให้สูงขึ้นเราจะเรียกว่า ฮีตเตอร์(Heater) แต่สำหรับไทยเรานั้นจะใช้ปรับให้อุณภูมิต่ำลงเพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน และนอกจากจะปรับตั้งแอร์จะใช้ปรับตั้งอุณภูมิแล้วยังต้องมีการควบคุมปริมาณความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ ความเร็วลมกลิ่นและสิ่งเจือปนในอากาศด้วยเนื่องจากปัจจุบันนี้ปัญหาโลกร้อนทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกปีและประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศที่มีอากาศร้อนชื้นเกือบตลอดทั้งปีร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก ทำให้แอร์ถูกซื้อมาติดตั้งเพิ่มมากขึ้นในอาคารต่างๆและที่อยู่อาศัย แล้วเราจะมีวิธีการในการเลือกแอร์ที่จะนำมาติดตั้งอย่างไรล่ะถึงจะเหมาะสมและช่วยเราประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายด้วย
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับ BTU ของแอร์กันก่อนว่าคืออะไร
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhm3pUxeXlUHnppiAVfWVbgou-HSoNkvNmzZt-JpH3M0hr-RCxVlkatZEkuieCKQNDzqqMlCX-PozhdPvAOGYZZI18ciCAGLGsVYLAq1SL-2NRY5zYIIGH2p7hKDnZKwKMgMgi8QqJPbSp0/s200/Ice.jpg)
BTU(British Thermal Unit) ที่ใช้สำหรับเครื่องปรับอากาศนั้นเป็นหน่วยความร้อน โดยเราจะได้ยินว่า แอร์ 1 ตัน แอร์ 2 ตัน นั้นคำว่า "ตัน" นั้นหมายถึง "ตันความเย็น" ซึ่งเป็นประสิทธิภาพในการทำความเย็น ที่เรียกว่า “ตันความเย็น” มีที่มาจากการทำให้ น้ำ เป็น น้ำแข็ง ปริมาณ 1 ตัน (หรือ 2,000 ปอนด์) ใน 1 วัน นั่นเอง
แล้วทำไมเราจะต้องเลือก BTU ของแอร์ให้เหมาะสมกับห้องด้วยล่ะ?
- BTU สูงเกินไป คอมเพรสเซอร์ของแอร์จะทำงานตัดต่อบ่อย ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลง ทำให้ความชื้นในห้องสูงไม่สบายตัว แพงและสิ้นเปลืองพลังงาน
- BTU ต่ำเกินไป คอมเพรสเซอร์ของแอร์จะทำงานตลอดเวลา เพราะความเย็นของห้องไม่ได้ตามอุุณภูมิที่ตั้งไว้ ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและแอร์เสียเร็ว
ขนาดห้องของเราจะติดแอร์กี่ BTU ดีถึงจะเหมาะสม
เราสามารถคำนวนหา BTU ได้จากสูตร
โดยตัวแปรมี 2 ค่าที่ใช้คือ
700 = ห้องที่มีความร้อนน้อยไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือใช้เฉพาะตอนกลางคืน
800 = ห้องที่มีความร้อนสูงโดนแสงแดดมากหรือใช้ตอนกลางวันมาก
กรณีที่ห้องมีความสูงมากกว่า 2.5 เมตรให้บวกเพิ่ม 5%
ปัจจัยที่เราจะต้องพิจารณาเพิ่มเติม
1. จำนวนและขนาดของหน้าต่าง
2. ทิศทางของแดดและที่ตั้งของห้อง
3. วัสดุหลังคาว่ามีฉนวนกันความร้อนไหม
4. จำนวนคนที่ใช้ห้อง
5. อุปกรณ์ภายในห้องกั้นทางแอร์หรือไม่
6. เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องที่ก่อให้เกิดความร้อน เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร เตารีด คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
เราสามารถเลือก BTU ให้เหมาะกับห้องได้ดังตารางต่อไปนี้
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgfIJ3p-ayjf38fFzvgi0uNRDp4IzXCggUTxwgfXLquaFHYjRfQCS3l8FRi8y8NYgafOZoOBZgRP7uGiKCQ5gBd4KGN5HC95i3aGLy9S239eJVzsWlDZWequlTlIlEdRLnwtE__wGAM_-2b/s320/btuselection.JPG)
ที่มา :
- http://www.roi8.com/
- http://air2home.com/
- http://th.wikipedia.org/